วิริยะประกันภัย ไม่ถอดใจ ประกันพีเอ

     วิริยะประกันภัย ยันไม่ล้มโครงการประกันกลุ่มพีเอ แม้เสี่ยงขาดทุนสูง ครึ่งปีหลังรุกขยายโครงการประมูลระดับกลางถึงล่าง หันเจาะกลุ่มองค์กรอิสระ-รัฐวิสาหกิจ ชูเพิ่มความคุ้มครองพิเศษในข้อยกเว้นเหนือคู่แข่ง หนีเกมตัดราคา ล่าสุด ผนึก ธ.ก.ส.ต่อยอดเบี้ยกลุ่มสินเชื่อเกษตรกร เผยต่อปีเบี้ยรับไม่ต่ำกว่าร้อยล้าน หวังสานเป้าปีนี้เบี้ยนอนมอเตอร์โต 5%แตะ1.5 พันล้าน จากครึ่งปีแรกนี้อยู่ที่ 700 กว่าล้าน

     นายวิญญู อังศุนิตย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ามีเบี้ยประกันนอนมอเตอร์ สิ้นปี 2553 เติบโต 5% คิดเป็นมูลค่า 1,500 ล้านบาท จากปี 2552 ที่ผ่านมาอยู่ที่ 1,200 ล้านบาท แบ่งเป็นประกันภัยทรัพย์สิน อุบัติเหตุส่วนบุคคลและสุขภาพ 1,000 ล้านบาท และอีก 200 ล้านบาทเป็นประกันภัยเบ็ดเตล็ด
ขณะที่ครึ่งปีแรกที่ผ่านมา บริษัทยังมีเบี้ยประกันนอนมอเตอร์เติบโตเพิ่มขึ้น 20% หรือมูลค่าประมาณ 700 ล้านบาท มาจากโครงการประกันโจรกรรมมอเตอร์ไซค์ มีเบี้ยประกัน 100 ล้านบาท มีรถจักรยานยนต์ที่ประกันกับบริษัทอย่างน้อยปีละแสนคัน ส่วนใหญ่ยังเป็นรถใหม่กลุ่มไฟแนนซ์ จากปัจจุบันมีรถจักรยานยนต์จดทะเบียนประมาณ 20 ล้านคัน รวมถึงทางด้านการรับประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลด้วย แม้ว่าการรับประกันภัยแบบกลุ่มจะทำกำไรลำบาก เช่นการรับประกันกลุ่มนักเรียน มีอัตราความสูญเสียเกิน 60% หรือในช่วงครึ่งปีแรกนี้ มีอัตราการสูญเสีย เพิ่มเป็น 50-60% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนอยู่ที่ 40-50% เนื่องมาจากผลกระทบความเสียหายในช่วงเดือนเมษายนและพฤษภาคม แต่ทั้งนี้ บริษัทพยายามบริหารพอร์ตรับประกันนี้ในภาพรวมให้มีกำไรเพื่อให้สามารถสร้างแบรนด์อย่างต่อเนื่องและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้เอาประกันอย่างต่อเนื่อง

     ดังนั้นบริษัทจึงได้วางนโยบายการดำเนินธุรกิจประกันนอนมอเตอร์ครึ่งปีหลัง มุ่งขยายโครงการประกันกลุ่ม ระดับกลางถึงล่างลงไปมากขึ้น ในลักษณะเข้าไปประมูลโครงการหน่วยงานราชการ องค์กรรัฐวิสาหกิจ และองค์กรอิสระ จากที่ผ่านมาประกันกลุ่มเอกชนและห้างร้าน ส่วนใหญ่เป็นโครงการผ่านตัวแทนนายหน้ามืออาชีพ เสนอความคุ้มครองดีแต่เบี้ยประกันค่อนข้างต่ำ
สำหรับแนวทางการเข้าไปประมูลโครงการของบริษัท ส่วนใหญ่จะเป็นการประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลและทรัพย์สิน ในลักษณะช่วยเหลือสังคม เพื่อสร้างภาพลักษณ์ของบริษัท ด้วยการรับประกันภัยที่สร้างมูลค่าให้กับผู้เอาประกันภัย และให้บริการหลังการขายที่รับการร้องเรียนน้อยที่สุด ขณะที่การเสนออัตราเบี้ยประกันจะไม่ตัดราคาในตลาด ในลักษณะที่บริษัทประกันขนาดเล็กสามารถทำได้ แต่จะให้ความคุ้มครองพิเศษที่เหมาะสมกับทุกฝ่าย ซึ่งส่วนใหญ่แล้วบริษัทประกันภัยคู่แข่งที่เข้าร่วมประมูลจะไม่สามารถขยายความคุ้มครองที่เป็นข้อยกเว้นได้
ล่าสุดบริษัทยังคงร่วมมือกับ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) ในโครงการประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล ให้กับกลุ่มลูกค้าสินเชื่อ ธ.ก.ส. ซึ่งตั้งแต่เริ่มโครงการเมื่อ 7-8 ปีที่ผ่านมาถึงปัจจุบัน มีฐานลูกค้ามากกว่า 500,000 ราย ทำให้บริษัทมีเบี้ยรับต่อปีไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท แม้จะมีอัตราการเสียหายถึง 60% แต่ยังมีกำไร อย่างไรก็ตามโครงการนี้ยังมีบริษัทประกันที่ร่วมรับประกันในโครงการ 4-5 ราย แบ่งสัดส่วนการรับประกันกลุ่มแถวหน้า ได้แก่ สินมั่นคงประกันภัย 40% ขณะที่วิริยะประกันภัยและทิพยประกันภัยอยู่ที่ 20%

ที่มา:ฐานเศรษฐกิจ